ก่อนจะไปถึงการทำน้ำหมักชีวภาพ ขออธิบายเกี่ยวการ "จิบเบอเรลลิน" กันก่อนเพื่อทำความเข้าใจถึงกระบวนการทำงานที่จะได้รับ และการทำที่ถูกต้องค่ะ
จิบเบอเรลลิน เป็นฮอร์โมนพืชที่มีโครงสร้างโมเลกุลขนาดใหญ่ ควบคุมการเจริญเติบโต และมีส่งผลต่อกระบวนการพัฒนาการรวมทั้งการยืดของข้อ การงอก การพักตัว การออกดอก การแสดงเพศ การชักนำการสร้างเอนไซม์ รวมทั้งการชราของดอกและผล
อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย
ทำน้ำหมักชีวภาพบำรุงดอก บำรุงระยะแตกตา บำรุงผลเพิ่มจิบเบอเรลลิน
จิบเบอเรลลิน เป็นฮอร์โมนพืชที่มีโครงสร้างโมเลกุลขนาดใหญ่ ควบคุมการเจริญเติบโต และมีส่งผลต่อกระบวนการพัฒนาการรวมทั้งการยืดของข้อ การงอก การพักตัว การออกดอก การแสดงเพศ การชักนำการสร้างเอนไซม์ รวมทั้งการชราของดอกและผล
อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย
![]() |
ทำน้ำหมักชีวภาพบำรุงดอก บำรุงระยะแตกตา บำรุงผลเพิ่มจิบเบอเรลลิน |
ทำน้ำหมักชีวภาพบำรุงดอก บำรุงระยะแตกตา บำรุงผลเพิ่มจิบเบอเรลลิน
เอาล่ะคราวนี้เราคงรู้แล้วว่าจิบเบอเรลลินคืออะไร และมีความสำคัญยังไงกับพืช แหล่งที่มาของจิบเบอเรลลิน คือ แบคทีเรีย, ไซยาโนแบคทีเรีย, ยีสต์, สาหร่ายสีเขียว, สาหร่ายสีน้ำตาล และสาหร่ายสีแดง รวมทั้งไมคอไรซาในรากกล้วยไม้ รวมทั้งในราบางชนิด ในที่นี้รวมไปถึงถั่วก็มีสารจำพวกนี้ด้วย แต่ทว่าแล้วเราจะผลิตเองได้ไง มาดูกันวัตถุดิบในการทำน้ำหมักชีวภาพ
- ผลไม้สุกเอาทั้งเมล็ดแล้วก็เป็นชนิดเดียวกัน 3 กิโลกรัม
- น้ำตาลทรายแดง 2 กิโลกรัม
- ปลายยอดผักหวานบ้าน 3 กิโลกรัม
- สาโท 1 แก้ว ดูวิธีการทำหัวเชื้อในบทความก่อนหน้าค่ะ
- น้ำฝนหรือน้ำต้มสุกที่ทิ้งให้เย็นแล้ว 50 ลิตร
ขั้นตอนการทำน้ำหมักชีวภาพ
นำผลไม้สุก, น้ำตาลทรายแดง, ปลายยอดผักหวานบ้าน, สาโท สับรวมกันแล้ว เติมน้ำ 50 ลิตรใส่ภาชนะปิดฝาหมักไว้ประมาณ 1 เดือน แล้วนำมาฉีดพ่นระยะแตกตา แตกดอก และระยะกำลังติดผล เพราะสูตรนี้มีจบเบอเรลลินมาก จะส่งผลคือ จะทำให้ผลใหญ่ เพราะจิบเบอเรลลินไปกระตุ้นการขยายตัวของเมล็ด อัตราการใช้งาน 40 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตรทำน้ำหมักชีวภาพบำรุงดอก บำรุงระยะแตกตา บำรุงผลเพิ่มจิบเบอเรลลิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น