หัวเชื้อจุลินทรีย์จากสับปะรด |
หัวเชื้อจุลินทรีย์จากสับปะรด
วัตถุดิบในหารทำหัวเชื้อจุลินทรีย์จากสับปะรด
- สับปะรด 1 ผล
- น้ำฝน 5 ลิตร
- น้ำตาลทรายแดงหรือกากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
- นมสด 1 แก้ว
- ลูกแป้งข้าวหมาก(อันนี้ต่อยอดจากบทความแรก วิธีการทำลูกแป้งข้าวหมาก)
ขั้นตอนการทำ
สับหรือบดสับปะรดทั้งหัวแบบไม่ต้องปลอกเปลือกเลยนะคะ ผสมทุกอย่างให้เข้ากันทั้งไว้ 3 วัน จึงนำไปใช้ได้ เพื่อนำไปต่อยอดการทำปุ๋ยชีวภาพ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นในอัตราส่วนการใช้คือหัวเชื้อ 2% ของสัดส่วนที่จะใช้งาน ซึ่งปุ๋ยชีวภาพ 100 ลิตรจะใส่หัวเชื้อ 2 ลิตร เป็นต้นสำหรับขั้นตอนการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์จากสับปะรดมีเพียงเท่านี้ค่ะ
ส่วนขั้นตอนการทำปุ๋ยไว้จะมาแชร์หลังจากเนื้อหาเรื่องการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ สำหรับใครที่ใจร้อนอยากทำก่อน อันนี้เป็นคำแนะนำนะคะ
ข้อแนะนำในการทำน้ำหมักชีวภาพ
ช่วงแรกๆ ต้องหมั่นเปิดฝาตรวจเช็คน้ำหมักของเราอยู่เรื่อยๆ ระยะ ช่วง 2 อาทิตย์แรก ควรเปิดฝาดู 2-3 วันต่อครั้งเพื่อตรวจดูว่าน้ำหมักของเรามีกลิ่นบูดเสียหรือไม่ หากมีควรมีการเติมน้ำตาลลงไปเพิ่มแล้วคนให้เข้ากันจากนั้นก็ปล่อยทั้งไว้ อีก 2-3 วันกลับมาดูใหม่ จนไม่มีกลิ่นบูดเหม็นเปรี้ยวแล้วให้รู้เลยว่าไปได้ครึ่งทางแล้วจ้า หมักทั้งไว้ 6-12 เดือนเป็นอันใช้ได้แล้วค่ะ
ควรใช้น้ำหมักชีวภาพจากสับปะรด 30 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตรฉีดพ้นสับปะรดที่ออกลูกแล้วประมาณ 2-3 เดือน
กากน้ำตาล |
กากน้ำตาล เป็นของเหลวสีดำที่เหนียวข้น ซึ่งไม่สามารถตกผลึกเป็นน้ำตาลได้อีก มีส่วนประกอบหลักประกอบด้วยน้ำตาลซูโครส น้ำตาลอินเวอร์ท และสารเคมีอื่นๆ เช่นปูนขาว เป็นต้น เมื่อสมัยก่อนดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์
ที่มาของกากน้ำตาล กดที่รูปเพื่อขยายภาพใหญ่ขึ้น |
แต่ปัจจุบันใช้เป็นส่วนผสมของอาหารเลี้ยงสัตว์ ถือเป็นแหล่งพลังงานที่เหมาะสมและราคาไม่แพง
ใช้เป็นปุ๋ย เนื่องจากกากน้ำตาลมีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับพืช
กากน้ำตาลยังใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการหมักหลายชนิด เช่น อุตสาหกรรมการหมักแอลกอฮอล์ สุรา กรดมะนาว กรดน้ำส้ม กรดแล็กติก ผงชูรส ยีสต์ ขนมปัง และยีสต์ผมอาหารสัตว์ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น